หมูล้นตลาด วันละ 8,000 ตัว กรมการค้าภายใน ชวนคนไทย บริโภคเพิ่มขึ้น-ขอห้างงดจัดโปรโมชั่น

หมู กรมการค้าภายใน ชวนคนไทย บริโภคเนื้อหมูเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์หมูเลี้ยงล้นตลาด วันละ 8,000 ตัว พร้อมขอห้างงดจัดโปรโมชั่นลดราคา เกรงกระทบเกษตรกร

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยในวันที่ 4 มี.ค. 67 ว่า กรมการค้าภายใน ร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและกรมปศุสัตว์ จัดรณรงค์ให้ผู้บริโภคช่วยบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยพยุงราคาเนื้อหมูให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้ ผลผลิตหมูมีชีวิต มีปริมาณเกินความต้องการจากปกติ โดยปัจจุบันมีหมูออกสู่ตลาด 58,000 ตัว มากกว่าความต้องการบริโภคเฉลี่ย วันละ 50,000 ตัว ทำให้มีหมูส่วนเกิน 8,000 ตัว จึงต้องหาทางเร่งระบายผลผลิตส่วนเกิน

นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าในส่วนของกรมปศุสัตว์ จะเร่งแก้ปัญหาตัดวงจรหมู ด้วยการผลักดันให้ทำหมูหัน ส่วนกรมการค้าภายใน ก็ได้รณรงค์ขอให้บริโภคเนื้อหมูเพิ่ม พร้อมขอความร่วมมือไปยังห้างค้าส่ง ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ให้งดการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าเนื้อสุกรในช่วงนี้ เพราะราคาเนื้อหมูถูกอยู่แล้ว โดยราคาเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัม ละ 130 บาท และหากมีการนำเนื้อหมูมาจัดโปรโมชั่น เกรงว่าจะไปกดราคารับซื้อหมูและกระทบกับเกษตรกร”

“สำหรับสถานการณ์ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม ปัจจุบันอยู่ที่ กิโลกรัมละ 67 – 68 บาท เกษตรกรผู้เลี้ยง ยังคงขายได้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ซึ่งการตัดวงจรหมู จะช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องเข้าไปช่วยดูแลในด้านต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาอาหารสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้” อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุ

ขณะที่ ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เพื่อติดตามราคา และสถานการณ์วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตอาหารสัตว์ต่อเนื่อง โดยพบว่า แนวโน้มราคาปรับลดลงตามต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง ขณะนี้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กิโลกรัมละ 10.26 บาท ลดลงจากปีที่แล้วที่ 12.67 บาท กากถั่วเหลือง เฉลี่ย เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 กิโลกรัมละ 13.92 บาท ลดลงจากปีก่อน 16.84 บาท ข้าวสาลี กิโลกรัมละ 7.74 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ 8.23 บาท ปลาป่น กิโลกรัมละ 32 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ 36.61 บาท

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวในวันนี้ (5 มี.ค. 67) ถึงกรณีเนื้อหมูและไข่ไก่ล้นตลาดแต่ราคายังสูงอยู่ว่า ตั้งแต่มาเป็นรัฐบาล ราคาไข่ไก่ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะไข่เบอร์ 3 ซึ่งเป็นเบอร์มาตรฐาน จาก 4 บาทกว่า ตอนนี้เหลือ 3.80 บาท และคาดว่าราคาจะลดลงไปเรื่อยๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนที่วิตกกังวลนั้น เพราะอาจมีการเสนอข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงอยากให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ราคาไข่ไก่จะลดลงน่าจะไม่เกิน 3.80 บาท และมีโอกาสจะลงได้อีก

ส่วนเนื้อหมู นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ขณะนี้หมูล้นตลาดจริงและขณะนี้พยายามรณรงค์ให้กินหมูกันให้มากขึ้น แต่ปัญหาอยู่ที่ราคา จึงต้องสร้างสมดุลของราคา คือ ราคาผู้บริโภคที่สามารถใช้จ่ายได้ลดลง กับ ราคาหน้าฟาร์ม ซึ่งกระทบกับผู้ผลิต จึงต้องดูแลไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบมากนักและพยายามปรับราคาตลาดให้อยู่ในราคาหน้าฟาร์มพอดี โดยพยายามจะเร่งให้เร็วที่สุดและพยายามจัดความสมดุลอยู่ โดยได้คุยคุยทั้งห้างสรรพสินค้า เจ้าของฟาร์ม และผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความสมดุลมากที่สุด

ขอขอบคุณบทความจาก : หมู